มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ในฐานะสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของคณะสงฆ์ไทย ได้ดำเนินงานตามพันธกิจ กล่าวคือ การผลิตบัณฑิตการวิจัย การบริการวิชาการแก่ชุมชน และการทะนุบำรุง ศิลปวัฒนธรรมโดยมีการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ภารกิจที่สำคัญประการหนึ่งคือการให้บริการวิชาการและการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมในรูปแบบต่างๆ วิทยาเขตขอนแก่น ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้มีความคิดริเริ่มในการจัดตั้งส่วนงานเป็นการเฉพาะที่มีคล่องตัวในการบริหารจัดการเพื่อสนองตอบความต้องการของผู้รับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการประจำวิทยาเขตขอนแก่น ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๘ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้มีมติให้จัดตั้งศูนย์บริการวิชาการและทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ตามประกาศวิทยาเขตขอนแก่นที่ ๒/๒๕๕๓ เรื่อง ประกาศตั้งศูนย์บริการวิชาการและทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ลงวันที่ ๑๔ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงานและประสานงานการจัดบริการวิชาการและการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและการบริการด้านอื่นๆบนพื้นฐานศักยภาพทางปัญญาและทรัพยากรของวิทยาเขตขอนแก่นในการนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานทั้งในภาครัฐและเอกชนอีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการขยายโอกาสทางการศึกษารวมทั้งการเพิ่มคุณภาพชีวิตของครอบครัวชุมชนและสังคม
ห้องสมุด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเปิดด าเนินการพร้อมกับมหาวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ พระราชสารเวที (ปัจจุบันที่พระธรรมวิสุทธาจารย์) เจ้าอาวาสวัดธาตุ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นในสมัยนั้น มีด าริให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สาขาขอนแก่น เพื่อให้เป็นสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาส าหรับพระภิกษุสามเณรในภูมิภาคนี้ ในสมัยนั้นห้องสมุดยังต้องอาศัยอาคารของวัดธาตุเพื่อให้นิสิตได้ศึกษาค้นคว้า ต่อเมื่ออาคารมหาวิทยาลัยได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีพ.ศ. ๒๕๒๘ จึงได้มีห้องสมุดเกิดขึ้น เป็นห้อง ๒๐๖ ชั้นสองของอาคารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) ต่อมาห้องสมุดเริ่มคับแคบ จ านวนที่นั่งส าหรับให้บริการไม่เพียงพอจึงได้ย้ายห้องสมุดลงมาที่ชั้นหนึ่งของอาคารและเปิดให้บริการตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาต่อมาเมื่อปี ๒๕๔๙ รองอธิการบดีวิทยาเขตอนแก่น(พระครูสุวิธานพัฒนบัณฑิต) ร่วมกับคณะสงฆ์ภาค ๙ ได้วางนโยบายในการขยายการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นให้สามารถรองรับผู้สนใจในเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยจึงได้ด าเนินการก่อสร้างอาคารหอสมุดสารสนเทศขึ้นโดย เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร) ได้โปรดประทานนามเพื่อเป็นสิริมงคลว่า “อาคารหอสุมดสารสนเทศสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร)” เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทยประยุกต์สูง ๓ ชั้น ยาว ๔๖ เมตร กว้าง ๑๖ เมตร ก่อสร้างในวงเงิน ๑๕,๘๐๐,๐๐๐ บาท (สิบห้าล้านแปดแสนบาทถ้วน) ในการก่อสร้างอาคารหอสมุดสารสนเทศ ฯ เจ้าประคุณสมเด็จฯ เมตตาประทานเงินสมทบการก่อสร้าง จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านบาทถ้วน) และมอบหมายให้พระธรรมสิทธินายก(ธงชัย สุขญาโณ) เป็นประธานด าเนินการจัดหาทุนในก่อสร้าง เปิดบริการตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ ๑/๒๕๕๐ เป็นต้นมา เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๐ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดป้ายอาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) และทรงเปิดป้ายอาคารหอสมุดสารสนเทศ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร) ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ต าบลโคกสี อ าเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นในการนี้ กลุ่มงานห้องสมุดและสารสนเทศจึงได้จัดท าเอกสารคู่มือการปฏิบัติงานขึ้นเพื่อแสดงรายละเอียดการปฏิบัติงานต่างๆ ได้แก่ ๑) งานห้องสมุด มีหน้าที่จัดหาและให้บริการยืม-คืนหนังสือ วารสารเอกสารวิชาการ โสตทัศนูปกรณ์ จัดอบรมบุคลากร นิสิต ของวิทยาเขตให้มีความรู้ด้านการสืบค้นห้องสมุด ๒)งานเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหน้าที่ให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่บุคลากรและนิสิตสามารถใช้คอมพิวเตอร์เพื่อค้นคว้าหรือสนับสนุนการท างาน รวมทั้งผลิต จัดหาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนการท างานและการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมายหน้า ๒
ดังนั้น เพื่อให้การด าเนินงานของกลุ่มงานห้องสมุดและสารสนเทศเกิดประสิทธิภาพ ทั้งเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานที่ช่วยในการวางแผนของผู้ปฏิบัติงาน สามารถด าเนินงานและพัฒนาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดท าคู่มือปฏิบัติงานขึ้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานภายในกลุ่มงานห้องสมุดและสารสนเทศ มี
ความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ และขั้นตอนการปฏิบัติงาน บรรลุตามวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลัยต่อไป